Home EntertainmentApplication Web Browser คืออะไร แนะนำ 4 เว็บบราวเซอร์น่าใช้สำหรับปี 2022
บราวเซอร์

Web Browser คืออะไร แนะนำ 4 เว็บบราวเซอร์น่าใช้สำหรับปี 2022

by whatshouldido
1,802 views

ทุกวันนี้เราใช้งานอินเตอร์เน็ตเรียกใช้งานเว็บไซต์กันเป็นเรื่องปกติทั้งการเปิดใช้งาน Google , Facebook หรือยูทูป และมักมีคำหนึ่งที่อยู่คู่กับวงการอินเตอร์เน็ตนั้นคือ เว็บบราวเซอร์ (Web Browser) ซึ่งน้อยคนนักจะรู้จักและเข้าใจความหมายของมัน ในบทความนี้เรา What Should I Do? จะมาทำความรู้จักพร้อมแนะนำ 4 เว็บบราวเซอร์น่าใช้

 

เว็บบราว์เซอร์คืออะไร?

เว็บบราวเซอร์(Web Browser) หรือที่เราเรียกสั้น ๆว่าบราวเซอร์  คือโปรแกรม ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้บุคคลสามารถค้นหา เรียกค้น และแสดงเนื้อหา เช่น หน้าเว็บ รูปภาพ วิดีโอ ตลอดจนไฟล์อื่นๆ บนเวิลด์ไวด์เว็บ

เบราว์เซอร์จะแปลหน้าเว็บไซต์ที่ส่งข้อมูลโดยใช้ Hypertext Transfer Protocol (HTTP) ให้เป็นเนื้อหาที่มนุษย์อ่านได้ พวกเขายังมีความสามารถในการแสดงโปรโตคอลและคำนำหน้าอื่นๆ เช่น HTTP / (HTTPS), File Transfer Protocol (FTP), การจัดการอีเมล (mailto:) และไฟล์ (file:)

คุณสมบัติทั่วไปของเว็บบราว์เซอร์

Web Browser ส่วนใหญ่แบ่งปันคุณสมบัติมาตรฐานเช่น :

  • ปุ่มโฮม เมื่อคลิกเลือกแล้วจะนำผู้ใช้ไปยังโฮมเพจที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
  • แถบที่อยู่เว็บ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ป้อนที่อยู่เว็บและเยี่ยมชมเว็บไซต์
  • ปุ่มย้อนกลับและไปข้างหน้า- ซึ่งจะนำผู้ใช้ไปยังหน้าก่อนหน้าหรือหน้าถัดไปที่พวกเขาเปิดอยู่
  • รีเฟรช- ปุ่มที่สามารถใช้เพื่อโหลดหน้าเว็บใหม่
  • แท็บ- ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหลายเว็บไซต์ในหน้าต่างเดียว
  • บุ๊กมาร์ก- ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกเฉพาะเว็บไซต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยผู้ใช้

 

ความแตกต่างระหว่างเครื่องมือค้นหาและบราวเซอร์คืออะไร?

หลายคนอาจสับสนระหว่างเครื่องมือช่วยค้นหาและ Web Browser ทั้งสองอย่างมีความแตกแต่างกัน เครื่องมือช่วยค้นหาหรือเสิร์ชเอ็นจิ้นเป็นเว็บไซต์ประเภทหนึ่งที่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถค้นหาได้เกี่ยวกับเว็บไซต์อื่น ๆ (ตัวอย่างทั่วไปของเครื่องมือค้นหา ได้แก่ Google, Bing, Yahoo และ Baidu) ในการค้นหาก็ต้องใช้เว็บเบราว์เซอร์เพื่อเปิดหน้า Google อีกทีหนึ่ง

 

ประวัติเว็บเบราว์เซอร์โดยย่อ

ในทุกวันนี้เว็บเบราว์เซอร์เข้าถึงได้ง่ายและสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ แต่วิวัฒนาการของการทำให้เบราว์เซอร์ใช้งานได้ง่ายนี้ใช้เวลาหลายปี โดยวิวัฒนาการมีดังนี้

  • ในปี 1990 : “WorldWideWeb” เป็นเว็บเบราว์เซอร์ตัวแรกที่สร้างโดย Tim Berners Lee ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก World Wide Web ที่เราใช้ในปัจจุบัน
  • ในปี 1993 : เว็บเบราว์เซอร์ “โมเสค” ได้เปิดตัว มีคุณสมบัติในการเพิ่มรูปภาพและอินเทอร์เฟซแบบกราฟิกที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เป็น “เบราว์เซอร์ยอดนิยมเครื่องแรกของโลก”
  • ในปี 1994 : Marc Andreessen (หัวหน้าทีม Mosaic) ได้ทำเว็บเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า ว่า“Netscape Navigator”
  • ในปี 1995 : Microsoft เปิดตัว“Internet Explorer” ในไม่ช้าก็ก้าวขึ้นเป็นเว็บบราวเซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ในปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Edge )
  • ในปี 2002 : ได้มีการเปิดตัว “Mozilla Firefox” ซึ่งมีความสามารถเทียบเท่ากับ Internet Explorer
  • ในปี 2003 : Apple ได้เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ละตั้งชื่อว่า“Safari ” เบราว์เซอร์นี้มักใช้ในอุปกรณ์ Apple เท่านั้นและไม่เป็นที่นิยมในอุปกรณ์อื่น
  • ในที่สุด ในปี 2008 : Google ได้เปิดตัว “Google Chrome” และภายในระยะเวลา 3 ปีก็เข้าแทนที่เบราว์เซอร์อื่นๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดและเป็นหนึ่งในเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก

 

4 เว็บบราวเซอร์น่าใช้สำหรับปี 2022

Web Browser

ในส่วนนี้ผมเรียงลำดับตามความนิยมโดยใช้ผลการค้นหาโดย Google Trends ระยะเวลาวัดผลตั้งแต่ 2562 ถึง ปี 2565 ผลที่ได้เรียงลำดับตาม web browser ที่เราได้แนะนำด้านล่างนี้เลยครับ

 

1. Google Chrome

Google Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่พัฒนาโดยบริษัท google ซึ่งเราสามารถใช้ได้ฟรีเพื่อใช้สำหรับเข้าถึงหน้าเว็บบนอินเตอร์เน็ต ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2565 Google Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 62%

Google Chrome ยังเป็นเบราว์เซอร์ข้ามแพลตฟอร์มด้วย ซึ่งหมายความว่ามีเวอร์ชันต่างๆ ที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ในระบบปฏิบัติการต่างๆ จากข้อมูลของ Statista Google Chrome สำหรับ Android เป็นเวอร์ชันที่มีการใช้งานมากที่สุด โดยถือครองส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ทั่วโลกมากกว่า 36% ณ เดือนมกราคม 2022

คุณสมบัติเด่นของ Google Chrome

  • รวดเร็ว ปลอดภัย และใช้งานง่าย : หนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุดของ Google Chrome คือเรื่องของประสิทธิภาพ คุณสามารถเปิดและโหลดหน้าเว็บได้อย่างรวดเร็ว อินเทอร์เฟซสะอาดตาและใช้งานง่าย แม้กระทั่งสำหรับผู้เริ่มต้น
  • ซิงค์การตั้งค่า Chrome ในอุปกรณ์ต่างๆ ได้ : เมื่อคุณใช้ Chrome คุณสามารถสมัคร Gmail และลงทะเบียนใช้งานเพื่อซิงค์ข้องมูลต่างๆ เช่น บุ๊กมาร์ก ประวัติการเข้าชม รหัสผ่าน การป้อนอัตโนมัติ และอื่นๆ ทั้งหมดได้ ซึ่งหมายความว่าการตั้งค่าของคุณจะยังคงสอดคล้องและอัปเดตทุกครั้งที่คุณใช้ Chrome ผ่านบัญชี Google ของคุณบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น

คลิกเพื่อดาวน์โหลด Google Chrome

2. Apple Safari

Safari เป็น Web Browser ที่เป็นค่าเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ของ Apple ตั้งแต่ iPhone , iPad และ MacOS ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2546 และได้มีการให้บริการช่วงสั้นๆ สำหรับ Windows ตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2555 ปัจจุบัน  Safari ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอาจจะเพราะกระแสการใช้งานอุปกรณ์ของ Apple และปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดของการใช้เบราว์เซอร์ในโทรศัพท์มือถืออยู่ 54%

คุณสมบัติเด่นของ Safari

  • ประหยัดพลังงาน : ถึงแม้ว่าอุปกรณต่างๆ ของ Apple จะยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่การใช้งาน Safari เองก็ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณใช้งานทรัพยากรด้านพลังงานได้ดีขึ้น คุณอาจใช้งาน Mac Book ของคุณได้นานขึ้นเป็นชั่วโมงเมื่อเทียบกับ Chrome, Firefox และเบราว์เซอร์ยอดนิยมอื่นๆ
  • การแบ่งปันข้อมูล : Safari มีปุ่มแชร์ในตัวช่วยให้ผู้ใช่งานสามารถแชร์เว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วทั้งการส่งข้อความ อีเมลหรือโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook หรือ Twitter อีกคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมคือความสามารถในการแชร์เว็บไซต์ได้โดยตรงกับ iPhone , iPad หรือ Mac โดยใช้ AirDrop

3. Opera

Opera เป็นเว็บบราวเซอร์ ที่เป็นผลจากโครงโครงการวิจัยของบริษัทโทรคมนาคมในนอร์เวย์เปิดตัวในปี 1995 นับตั้งแต่เปิดตัวก็ได้รับการอัปเดทมากมายเพื่อตอบสนองนวัฒกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ทันการการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี Opera มีวงจรการพัฒนาที่รวดเร็วและทดลองคุณสมบัติใหม่ๆ และการอัปเดตทุกๆ สองสัปดาห์

คุณสมบัติเด่นของ Opera

  • เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ : จากการทดสอบของ Opera “เบราว์เซอร์สามารถทำงานได้นานขึ้นถึง 35% เมื่อเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ เมื่อเทียบกับเบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Google Chrome และ Microsoft Edge”
  • Opera กำจัดโฆษณาป๊อปอัป : สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เบราว์เซอร์ Opera มีประสิทธิภาพมากก็เนื่องมาจากตัวบล็อกโฆษณา ที่ป้องกันไม่ให้โฆษณาปรากฏขึ้นขณะใช้งาน ทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น ตัวบล็อกโฆษณานั้นฟรี ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริม

คลิกเพื่อดาวน์โหลด Opera

4.Mozilla Firefox

Firefox เป็นเว็บเบราว์เซอร์แบบโอเพ่นซอร์สซึ่งแตกต่างจาก Chrome, Safari, Internet Explorer และ Microsoft Edge ซึ่งสร้างขึ้นโดยสมาชิกชุมชนของ Mozilla Foundation  โดย Firefox อาจเป็นเบราว์เซอร์ที่ปรับแต่งได้มากที่สุดด้วยโปรแกรมเสริมและส่วนขยายมากมายให้เลือก

คุณสมบัติเด่นของ FireFox

  • มีส่วนขยายให้ใช้งานจำนวนมาก : ด้วยความที่ FireFox เป็นโอเพ่นซอร์สหมายความว่านักพัฒนาสามารถเข้ามาร่วมพัฒนาและมีส่วนร่วมได้อย่างไม่จำกัด จึงเกิดส่วนขยายที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยในการใช้งานได้เป็นอย่างดี
  • ตัวป้องกันป๊อปอัป : ระบบป้องกันไม่ให้โฆษณาที่น่ารำคาญปรากฏขึ้นที่หน้าหน้าต่างเบราว์เซอร์ คุณสามารถกำหนดค่าให้แจ้งให้คุณทราบเมื่อป๊อปอัปถูกบล็อกและอนุญาตป๊อปอัปบางรายการจากบางไซต์ ซึ่งช่วยให้คุณเปิดใช้งานป๊อปอัปที่เป็นหน้าต่างที่มีประโยชน์ซึ่งต่างจากโฆษณาที่ไม่ต้องการ

คลิกเพื่อดาวน์โหลด FireFox

สรุป

หากคุณกำลังพิจารณาเว็บบราวเซอร์เพื่อใช้งาน หวังว่าบทความนี้จะชอบตอบคำถามในสิ่งที่คุณกำลังหา แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าไม่มี Web Browser ที่ดีที่สุดสิ่งสำคัญคือเลือกใช้ในสิ่งที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุดครับ 🙂

 

ข้อมูลอ้างอิง

  • https://byjus.com/govt-exams/web-browser/
  • https://turbofuture.com/internet/Computer-Basics-What-is-a-Browser
  • https://www.techtarget.com/whatis/definition/browser
  • https://www.gizmoarc.com/most-popular-internet-browsers-from-2003-to-2020/
  • https://www.techopedia.com/definition/288/web-browser

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ